พูดถึงการพนัน พื้นบ้านของไทย ทุกคนนึกถึง อะไรกันบ้าง โดยวันนี้ เราจะมาพูดถึง การพนัน ที่มีมาอย่าง ยาวนาน โดยส่วนมาก จะชอบกันใน หมู่ผู้ชาย นั่นก็คือการ พนันไก่ชน หรือ เกมส์ ไก่ชน
ในสมัยก่อน กีฬาไก่ชน เป็นกีฬา ที่อยู่ในรั้วพระราชวัง ตั้งแต่ในสมัย สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และ จนถึงปัจจุบัน ซึ่งในปัจจุบัน นั้นเราจะเห็น ได้ตามชุมชน หรือ บ่อนพนันไก่
โดยถ้าอยู่ตาม ต่างจังหวัดแล้ว เราจะเห็น ได้บ่อย กว่าใน แถวบ่อนไก่ ของ หมู่บ้าน เรียกได้ว่า เจ้าของไก่ ต้องมีไก่ ที่แข็งแรง พอสมควรเลย
โดยการแข่งนั้น จะมีคนอุ้มไก่ เข้าสนาม เพื่อทำการแข่ง ตามประสาชาวบ้าน แต่ด้วยในสมัยปัจจุบันนี้ เราไม่จำเป็น ที่จะต้องตามไป ดูการชนไก่ของ แต่ละบ่อนไก่แล้ว เพราะเรามีไก่ชนออนไลน์ เดี๋ยววันนี้ ที่เราจะมาพูดถึงกัน
โดยผู้เดิมพันสามารถแทงได้ 3 รูปแบบ นั่นก็คือ การแทงแดง แทงน้ำเงิน หรือ แทงสมอ เป็นการแทง ที่คล้ายรูปแบบ ของ การแทงมวย
โดยหากนักเดิมพันท่านใด ที่ต้องการจะ พนันไก่ชน ควรจะต้องศึกษา รูปแบบ และ วิธีการ แทงให้อย่างละเอียด และ รอบคอบ เพื่อที่จะเป็นผลลัพธ์ ในเงินรางวัล ซึ่งการตีไก่ชนนั้น
ไม่ต่างจากการ แทงบอล หรือ การพนันกีฬา สักเท่าไหร่ เพราะ มันคือการแข่งขัน ที่ต้องเดิมพันว่า ฝ่ายไหนชนะ ฝ่ายหนึ่งจะแพ้ ถ้าหากผู้เดิมพันทนั้น ทายถูกต้อง ก็จะได้รับเงินรางวัล เป็นผลตอบแทน
พนันไก่ชน ออนไลน์
แต่แน่นอนว่ากติกาการชนต่างๆ ก็ยังยึดกติกาสากลที่ใช้กันทั่วไปอยู่ เพียงแต่มีการปรับเปลี่ยนเรื่องของอัตราจ่ายให้เข้าใจง่ายขึ้นให้เหมาะกับการเล่นออนไลน์ โดยกติกาการชนไก่จะแบ่งเป็น 2 สายหลักๆ ได้แก่
1. สายอาชีพ
การแข่งไก่ชนแบบสายอาชีพ จะมีความทรหดมากกว่าสายสมัครเล่น เพราะมีการแข่งหลายยกมากกว่า โดยในการแข่งสายอาชีพนั้น ไก่จะต้องตีทั้งหมด 12 ยก ใช้เวลา 20 นาที พัก 20 นาที ซึ่งในระหว่างการต่อสู้ ถ้าหากไก่ตัวไหนไม่สู้ นอน หมอบ หรือวิ่งหนี เกิน 3 ครั้ง จะถือว่าแพ้ทันที
นอกจากนี้ถ้าหากว่าไก่ตัวไหนปากหลุด หรือดูแล้วบาดเจ็บหนักเกินไปก็จะถูกปรับแพ้เช่นกัน
2. สายสมัครเล่น
การตีไก่สายสมัคร เล่นจะมีกติกา เหมือนกับ สายอาชีพ เกือบทุกอย่าง จะต่างกัน ที่เวลาในการแข่ง ซึ่งไก่ จะตีกัน แค่ 5 ยก ใช้เวลา 10 นาที พัก 2 นาที ซึ่งการแข่งสายสมัคร เล่นนี้ จะมีแต่ไก่ที่ยังใหม่ กับ สนามซะส่วนใหญ่
กติกาของไก่ชน
เริ่มจากการนำไก่ชน มาชั่งน้ำหนัก และ ลงทะเบียนประวัติสายพันธุ์ ก่อนเริ่มแข่งขัน โดยเกณฑ์จะพิจารณาจาก น้ำหนัก และ ส่วนสูงของไก่ หลังจากนั้นจะทำการ สวมเดือยด้วยนวมที่ได้มาตรฐาน จากทางสนามไก่ชนและเสริมปีกไก่ และ เข้าปากไก่ก่อนการแข่งขัน
ไก่ชนแบบสายอาชีพ จำนวนการแข่งขัน ไม่เกิน 12 ยก ใช้เวลายกละ 20 นาที พัก 20 นาที ถือว่าเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือด และ ยาวนานกว่า ไก่ชนแบบสมัครเล่นอีกเท่าตัว ซึ่งการเล่นไก่ชนแบบสายอาชีพนั้น จะมีอัตราเดิมพัน และ อัตราจ่ายที่สูงกว่าการเล่นไก่ชนแบบสมัครเล่น
ไก่ชนแบบสมัครเล่น จำนวนการแข่งขันคือ 5 ยก ใช้เวลายกละ 10 นาที พัก 2 นาที เมื่อเริ่มการแข่งขัน ให้ไก่อยู่ในถาดที่มุมของตนเองที่สนามเตรียมไว้ ข้อห้ามระหว่างพักยก คือ ห้ามถ่างตา , ไขหัว , หรือ เย็บแผล และ ยังห้ามใช้ยาหม่อง หรือ ยาโด๊ปใดๆ หากตรวจสอบเจอจะถูกปรับแพ้ทันที
การตัดสินแพ้ – ชนะ จะมีระบบให้คะแนนแบบคอมพิวเตอร์ โดยจะมีกรรมการ 3 คน เริ่มให้คะแนนตั้งแต่ยกที่ 4 และจะมีการให้คะแนนดังนี้
- โจมตีโดนคู่ต่อสู้แบบชัดเจน ได้ 1 คะแนน โดยกรรมการ 1 ใน 3 ในการตัดสิน .
- โจมตีโดนคู่ต่อสู้ และ แสดงอาการชัดเจน ได้ 2 คะแนน โดยกรรมการ 2 ใน 3 ในการตัดสิน
การตัดสินให้ไก่แพ้
- ไก่นอน หรือ หมอบ ไม่ยอมสู้
- ไก่ปากหลุด หรือ หักปล้องอ้อย
- ไก่ตาปิด หรือ มีเลือดไหลเข้าตา และ มีบาดแผลอื่นๆมากเกินไป
- เจ้าของไก่ทำการยอมแพ้ โดยการโยนผ้าขาว
สายพันธุ์ของไก่ชน
การเลือกสายพันธุ์ ของไก่ชน ก็มีผลต่อการแข่งขัน เช่นกัน โดยจะส่วนมาก จะเลือกเดิมพันจาก ไก่พม่า เพราะมีความ ดุดัน , โจมตีแม่นยำ , คล่องแคล่วว่องไว , มีไหวพริบที่ดี โดยสิ่งเหล่านี้ คือสิ่งที่นักพนันไก่ชนมองหาในตัวไก่ชน เพราะจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้การเดิมพัน มีแนวโน้มว่าจะชนะเดิมพันมากกว่า การเลือกแทงไก่ที่ไม่มีลักษณะดังกล่าว
อัตราเดิมพัน และ อัตราต่อรอง
ในส่วนของอัตราเดิมพัน และ อัตราต่อรองต่างๆ ก็สำคัญไม่แพ้กับข้ออื่นๆ โดยเหล่านักพนันไก่ชน จะเลือกเดิมพันทีไก่รอง เพราะจะได้เงินเดิมพันที่มากกว่า และ ถ้าหากเสียจะเสียน้อยกว่า ถึงจะเป็นไก่รองแต่ก็มีโอกาสชนะเดิมพันได้เหมือนกัน
ทั้งนี้ เราขอแนะนำ ให้คุณมาเดิมพัน เกมพนัน ไก่ชนออนไลน์ กับเราที่เว็บ UFABET ให้คุณได้สนุกกับการ เดิมพันหลาย รูปแบบ แทงบอล พร้อมทั้ง ข่าวสารอัพเดท ไม่ว่าจะเป็น ข่าวกีฬา หรือ ข่าวบันเทิง